นายธวัชชัย จันทร์เจริญ นายกเทศมนตรีตำบลลุ่มลำชี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร มอบเตาหุ้งต้มให้แก่ตัวแทนแต่ละหมู่บ้าน จาก22 หมู่บ้านในเขตพื้นที่ ตำบลลุ่มลำชี  เตาอั้งโล่ เป็นเตาไฟแบบจีน คนจีนนำเข้ามาใช้ในดินแดนประเทศไทยเมื่อใดไม่ทราบแน่ชัด แต่ที่แน่ๆ ในสภาวะค่าครองชีพสูง น้ำมันแพง แก๊สหุงต้มขึ้นราคาแบบนี้ “เตาอั้งโล่” อาจเป็นทางเลือกที่ดีงามทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดเงินในกระเป๋าให้กับพวกเราทุกคนได้อีกทางหนึ่ง เราอาจจะต้องย้อนกลับไปมีวิถีชีวิตการหุงต้มอาหารแบบเดิมๆกันดู ก็น่าสนุกไปอีกแบบนะ

ในภาษามลายูและอินโดนีเซียใช้เรียกเตาชนิดนี้ว่า “อังโล” (Anglo) ซึ่งยืมมาจากภาษาจีนฮกเกี้ยนคือ “ฮังหลอ”หมายถึง เตาปิ้ง เตาย่าง อาจสรุปได้ว่า เตาอั้งโล่น่าจะเพี้ยนมาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน ระยะเวลาที่มีการนำเตาอั้งโล่มาใช้ในประเทศไทยยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าน่าจะมีการนำเตาอั้งโล่เข้ามาเมื่อตอนชาวจีนพวกหนึ่งอพยพเข้ามาในประเทศไทยเนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อประมาณ 100 ปีมานี่เอง

เตาอั้งโล่ ทำจากดินเผา ลักษณะทรงกระบอก ส่วนก้นสอบเข้าเล็กน้อย ด้านหน้าเตาเจาะเป็นช่องสำหรับใส่ฟืนหรือถ่าน บริเวณปากเตาทำเป็นเส้าคล้ายลูกป้อมที่ตั้งรายบนกำแพงเมืองโบราณ มีทั้งหมดสามเส้าไว้สำหรับรองรับภาชนะ นอกจากนี้ ภายในเตาอั้งโล่จะมี “ตะกรับ” หรือ “รังผึ้ง” ภาษาจีนเรียก “โล่เท็ง” เป็นแผ่นดินเผาลักษณะกลม เจาะรูเต็มแผ่น เอาไว้สำหรับรองรับเชื้อเพลิง ส่วนช่องว่างข้างใต้ตะกรับนั้นช่วยระบายอากาศ และช่วยถ่ายขี้เถ้าลงไว้ด้านล่างเตา
ด้วยความที่เตาอั้งโล่สะดวกต่อการใช้งาน ปลอดภัย ไม่ทำให้ครัวสกปรก มีควันไฟและเขม่ามาก และด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเตาไฟแบบโบราณประเภทอื่น ๆ เป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่คนไทยมาช้านานเชื่อกันว่าการหุงหาอาหารด้วยเตาถ่านจะได้รสชาติที่อร่อยกว่าการใช้เตาแก๊ส นั่นเป็นเพราะควันไฟจากถ่านหรือฟืนจะช่วยเพิ่มความหอมตามธรรมชาติให้อาหาร

จนกระทั่งปัจจุบันกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน แนะนำให้ประชาชนใช้ “เตามหาเศรษฐี” เป็นเตาซูเปอร์อั้งโล่ ซึ่งเป็นเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูงกว่าเตาอั้งโล่แบบเดิม แต่ทุกบ้านก็ไม่ได้สะดวกในการใช้ถ้าอาศัยอยู่คอนโด การใช้เตาถ่านนั้นควบคุมอุณหภูมิได้ยาก และอาจจะมีควัน กลิ่น รบกวนคนอื่นอีกด้วย